บท 1
ฉือมู่เจินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเช็ดผมไปพลางเปิดแอปพลิเคชันแชทไปพลาง มีเบอร์แปลกหน้าจำนวนนับไม่ถ้วนแอดเธอเป็นเพื่อน
ข้อความยืนยันการขอเป็นเพื่อนที่ส่งมาก็ซ้ำซากจำเจ ล้วนแต่เป็น:
#ฉันนอนกับฮั่วอวิ๋นถิงแล้วโอนเงินมาสะเดาะเคราะห์ซะ
#คุณนายฮั่วฉันรู้ความลับของคุณแล้วโอนให้ฉันห้าสิบ
#ภรรยาที่แต่งงานแบบลับๆของฮั่วอวิ๋นถิงแอดฉันมา
น่าเบื่อสิ้นดี
ตอนนั้นทำไมเธอถึงยอมแต่งงานแบบลับๆ กับฮั่วอวิ๋นถิงกันนะ? ตอนนี้เพื่อปิดปากปาปารัสซี่บางคนที่เริ่มระแคะระคาย เธอต้องจ่ายค่าปิดปากไม่น้อยในแต่ละปี
ประเด็นคือ ดูเหมือนตัวฮั่วอวิ๋นถิงเองจะไม่สนใจเลยสักนิด
มองเตียงใหญ่ที่เย็นชืด ฉือมู่เจินรู้ดีว่าวันนี้ฮั่วอวิ๋นถิงคงจะไม่กลับบ้านอีกตามเคย
สองเดือนติดต่อกัน จากที่เคยกลับดึกก็กลายเป็นไม่กลับเลย จากที่เคยให้ผู้ช่วยแจ้งข่าว จนกระทั่งฉือมู่เจินเป็นฝ่ายส่งข้อความไปก็ไม่ตอบกลับอีกแล้ว
ฉือมู่เจินก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน
ไม่กลับก็ไม่กลับสิ ยังไงซะก็เป็นการแต่งงานตามสัญญาอยู่แล้ว
ฉือมู่เจินเพิ่งจะล้มตัวลงนอน เพื่อนสนิทก็โทรเข้ามาพอดี
"เถียนเถียน? เป็นอะไรไป? ดึกป่านนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ? หรือว่าไปเที่ยวผับอีกแล้ว?"
เสิ่นเถียน เพื่อนสนิทของฉือมู่เจิน เป็นพวกนกฮูกตัวยง
กลางวันไม่เคยเห็นหน้า แต่กลางคืนน่ะเหรอ ขาประจำตามสถานบันเทิงใหญ่ๆ เลยล่ะ
"สามีเธอ คงไม่มีน้องชายฝาแฝดหรอกใช่ไหม?"
เสิ่นเถียนถามอย่างลังเล
พอได้ยินเสิ่นเถียนพูดแบบนั้น ฉือมู่เจินก็รู้ได้ทันทีว่าเธอน่าจะเห็นฮั่วอวิ๋นถิงเข้าแล้ว
"ว่าไง? เธอเจอเขาเหรอ? อยู่ที่โรงแรมโซเฟียใช่ไหม?"
"อ๊ะ? เธอรู้ได้ยังไงเนี่ย?"
"อือ"
"เธอนี่ใจกว้างจังเลยนะ!"
"ถึงโรงแรมโซเฟียจะไม่ใช่โรงแรมในเครือฮั่วกรุ๊ป แต่การจัดให้ลูกค้าพักสักคืน ก็คงไม่ทำให้ฮั่วอวิ๋นถิงเสียดายเงินหรอกมั้ง?"
ฉือมู่เจินพูดช้าๆ
"ไม่ใช่ เพื่อน! ฉันกำลังพูดถึงเรื่องนั้นอยู่หรือไง? สามีเธอกับน้องสาวเธอเปิดห้องอยู่ด้วยกันนะ! ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนจัดแจงให้เองหรอกนะ?"
เสิ่นเถียนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ในฐานะเพื่อนสนิทของฉือมู่เจิน ย่อมรู้จักครอบครัวและเพื่อนฝูงของเพื่อนสนิทดีเป็นธรรมดา
ถ้าไม่ใช่เพราะคุ้นเคยกันมากจริงๆ เสิ่นเถียนคงจำไม่ได้ตั้งแต่แรกเห็นหรอก
น้องสาวที่เหมือนผีร้ายกาจคนนี้ ไม่ใช่ว่าไปต่างประเทศแล้วเหรอ?
กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ที่สำคัญคือพอกลับมาก็มาพัวพันกับพี่เขย พูดออกไปช่างน่าอับอายเหลือเกิน
เสิ่นเถียนรู้ว่าฉือมู่เจินเป็นคนใจกว้าง แต่การถูกสวมเขายังไงมันก็ไม่น่าดูอยู่ดี
"เธอยังเห็นฉือเซวียนด้วยเหรอ?"
"อือหึ พวกเขาสองคนกอดกันอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ตอนรับคีย์การ์ด ฉันตามไปถึงชั้น 30 ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟสวีท เปิดห้องเดียวเท่านั้น ฉันรออยู่หน้าห้องตั้งสามสิบนาที ก็ไม่เห็นสามีเธอออกมา ฉันถึงได้โทรหาเธอ ฉันแค่อยากให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ปล่อยข่าวลือ แล้วไง ตอนนี้เธอจะมาจับชู้ไหมล่ะ?"
น้ำเสียงของเสิ่นเถียนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอยากลอง
ฉือมู่เจินลุกขึ้นนั่ง ขยี้ผมเล็กน้อย แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอน ตกกระทบบนหมอนของฮั่วอวิ๋นถิง
ทุกคนต่างก็มีคนอย่างแสงจันทร์ในใจของตัวเอง เหอะๆ สามปีมานี้ เธอคอยดูแลเอาใจใส่เขาอย่างอ่อนโยน รักเขามาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถแลกใจจริงของเขามาได้
ช่างมันเถอะ
เธอก็ไม่ใช่คนไร้ค่านี่นา ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับผู้ชายที่ไม่รักตัวเองต่อไป
อีกทั้ง ฮั่วอวิ๋นถิงก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเธอเกลียดฉือเซวียนมากแค่ไหน
ตอนที่เขาทำแบบนี้ ก็คงไม่ได้คิดที่จะอยู่กับเธอต่อไปแล้วสินะ
ฉือมู่เจินหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ไหล่ หยิบสัญญาแต่งงานและทะเบียนสมรสออกจากตู้เซฟ แล้วพูดเบาๆ ว่า: "เพื่อนรัก ถ้าฉันหย่าแบบไม่ได้อะไรเลย เธอจะเลี้ยงฉันไหม?"
"แน่นอนอยู่แล้ว! แต่ทำไมล่ะ?! เห็นๆ อยู่ว่าเขาเป็นคนผิด!"
เสิ่นเถียนไม่เข้าใจ จะหย่ากันอยู่แล้ว ทำไมฉือมู่เจินยังต้องไว้หน้าฮั่วอวิ๋นถิงอีก
ตอกย้ำความผิดฐานนอกใจให้ตายไปเลยสิ ค่าชดเชยการหย่าต้องได้หลายร้อยล้านเลยนะ!
"คุณย่าฮั่วสุขภาพไม่ค่อยดี ฉันไม่อยากให้ท่านเสียใจ"
"ก็ได้ แม่คนดีศรีสังคม แล้วตอนนี้จะเอายังไง? ให้ฉันขับรถไปรับเธอไหม?" เสิ่นเถียนสวมแว่นตาและผ้าพันคอ รับกุญแจรถจากพนักงานรับรถหน้าประตู ควงเล่นบนนิ้ว ท่าทางดูเป็นอิสระเสรี ทำให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาอดไม่ได้ที่จะหยุดมอง เคลิบเคลิ้มไปกับความสวยสะกดของเธอ
"อือ มารับฉันหน่อย ฉันจำได้ว่าฉันมีวิลล่าอีกหลังที่อวิ๋นติ่งฉงกงใช่ไหม?"
"เลิกคิดเลย ที่นั่นไม่มีคนอยู่นานกี่ปีแล้วก็ไม่รู้ ถ้าเธอจะหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่เลย มาอยู่บ้านฉันก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะพาคนไปทำความสะอาดวิลล่าให้แล้วค่อยย้ายไปอยู่ เอ้อ แล้วนี่ดึกดื่นป่านนี้เธอจะไปก็ไปเลยเนี่ย ไม่ต้องบอกคนนั้นเขาสักคำเหรอ?"
"ไม่จำเป็น ปกติเขาก็ไม่ค่อยกลับบ้านอยู่แล้ว ตอนนี้มีฉือเซวียนแล้ว คงจะยิ่งจำไม่ได้แล้วล่ะว่ายังมีภรรยาอย่างฉันอีกคน"
"แม่งเอ๊ย ไอ้สารเลวจริงๆ! ฮิฮิ~ เธอนี่นะเธอ~ ช่างเถอะ ฉันไม่ว่าเธอแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรมาทั้งนั้น ของของผู้ชายเฮงซวยนั่นมันสกปรก"
ดังนั้น คนรับใช้บ้านฮั่วที่ยังไม่นอน ก็เห็นคุณนายฮั่วในชุดนอนเดินอาดๆ ขึ้นรถลัมโบร์กินีสีเหลืองไป...
"ตายแล้ว! คุณหญิงเป็นอะไรไปคะเนี่ย? ดึกดื่นป่านนี้จะไปไหนกัน?"
"อ้าว! ฉันว่าคุณผู้ชายก็ไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้วนะ พวกเธอว่า คุณหญิงจะไปจับชู้หรือเปล่า?"
"นั่นก็เป็นไปได้นะ แต่ไปจับชู้ก็ไม่น่าจะแต่งตัวไม่เรียบร้อยขนาดนั้นมั้ง?"
"พวกเธอว่า เป็นไปได้ไหมว่า คุณหญิงเองนั่นแหละที่แอบไปพบชู้รักตอนดึกๆ ดื่นๆ?! ลองคิดดูสิ แบบว่ารีบร้อนทนไม่ไหวแล้วอะไรแบบนั้นไง! ยังไงออกไปก็ต้องถอดเสื้อผ้าอยู่แล้ว จะใส่ชุดอะไรมันสำคัญด้วยเหรอ?"
"โอ้โห ที่เธอพูดมาก็มีเหตุผลนะ ฉันเถียงไม่ออกเลย!"
"งั้น? เราจะโทรหาคุณชายฮั่วดีไหม? ยังไงซะ เงินเดือนที่เราได้ก็มาจากคุณชายฮั่วนะ"
"โอเค โทรไปบอกหน่อยก็ดี แต่อย่าใส่สีตีไข่นะ ถ้าเกิดพวกเราเดาผิดขึ้นมา ถึงตอนนั้นตกงานกันพอดี อย่ามาลากฉันซวยไปด้วยล่ะ!"
"ใช่ๆ ป้าหวงต้องพูดตามความจริงนะ อย่าใส่สีตีไข่เด็ดขาดนะ!"
ป้าหวงเหลือบตามองบนใส่ทุกคน "รู้แล้วๆ!"
แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรออกหาฮั่วอวิ๋นถิง
เคอหนิงมองโทรศัพท์ในมือแวบหนึ่ง หน้าจอโชว์ว่าเป็นเบอร์ป้าหวง
ดูปุ๊บก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของคนรับใช้ เขาจึงไม่ได้รับสาย
ฮั่วอวิ๋นถิงใช้มือข้างหนึ่งกุมท้อง ส่วนอีกข้างถือแก้วน้ำอุ่นที่ฉือเซวียนยื่นให้ แล้วดื่มรวดเดียวจนหมด
ช่วงนี้ฮั่วอวิ๋นถิงโหมงานหนักเกินไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นขาที่เคยหายดีแล้วหรือกระเพาะอาหาร ก็สลับกันกำเริบขึ้นมา
ประเด็นคือฉือเซวียนมักจะปรากฏตัวได้ถูกจังหวะทุกครั้ง และดูเหมือนฮั่วอวิ๋นถิงก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธฉือเซวียนเลย
ทั้งสองคนจึงเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้กระทั่งเวลาไปทำงานต่างจังหวัด ถ้าฉือเซวียนจะตามไปด้วย ฮั่วอวิ๋นถิงก็ไม่เคยคัดค้าน
ในความรู้สึกของเคอหนิง ฉือเซวียนดูเหมือนภรรยาของฮั่วอวิ๋นถิงมากกว่าเสียอีก
เมื่อเห็นเคอหนิงที่ยืนอยู่ตรงประตูทำท่าอ้ำๆ อึ้งๆ ฮั่วอวิ๋นถิงก็เอนตัวพิงโซฟาแล้วถามเสียงเบาว่า: "มีอะไร?"
"ท่านประธานครับ ที่บ้านโทรมา ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร ผมไม่ได้รับสายเลยครับ"
"ใครโทรมา?"
"ป้าหวงครับ"
"เหอะ ไม่ต้องรับ"
พวกนี้เป็นลูกไม้เดิมๆ ของฉือมู่เจินนั่นแหละ โทรมาถามว่าจะให้เตรียมน้ำอาบไหม ความหมายแฝงก็คือจะกลับมานอนบ้านหรือเปล่า ถามว่าตอนเช้าจะกินอะไร ก็คือถามว่าตอนเช้าเขามีธุระอะไรไหม
ฉือมู่เจินมีลูกเล่นเยอะจริงๆ ฮั่วอวิ๋นถิงเดาว่าคงเป็นเพราะช่วงนี้เขาไม่ได้กลับไปที่วิลล่า เธอคงร้อนใจ ถึงได้ให้ป้าหวงโทรมาถาม
"ครับ ท่านประธาน อ้อ จริงสิครับ ทางศูนย์บัญชาการการค้าที่รัฐเยว่ วันนี้สถานีวิทยุและอุปกรณ์สื่อสารได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองชั่วคราว ตอนนี้ทางเรายังติดต่อไม่ได้ ท่านประธานจะให้เรารอข่าวหรือส่งคนไปดูครับ?"
เคอหนิงถามเสียงเบา



















































































































































































































































































































































































































































































































































































































































